เรื่องปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวด บทที่ 9

64180 Views
บทที่ 9 แขวนเหรียญหลวงปู่ทวดแล้วไม่มีใครตายโหง

เรื่องแคล้วคลาดนี้เป็นเรื่องจริง ไม่มีใครตายโหงเพราะแขวนหลวงปู่ทวด เป็นเรื่องค่อนข้างจะแน่นอน รถคว่ำรถอะไรไม่เคยเจอเลย หรือที่เจอบ้างส่วนใหญ่จะรอด พอรอดเสร็จเขาจะถามว่าแขวนรุ่นไหนก็จะบอกว่ารุ่นโน้นรุ่นนี้ ก็จะมีการขอกัน สมัยก่อนนั้นแจก เนื่องจากเส้นทางใต้สมัยก่อนเวลาไปไหนมาไหนทางแย่มาก ทำให้เจอปัญหาเรื่องอุบัติเหตุเยอะ ส่วนใหญ่ถ้าไปบอกว่าได้คงกระพัน น้อย จะไม่ค่อยได้ยิน แต่จะเป็นลักษณะแคล้วคลาดมากกว่า พูดง่าย ๆ เท่าที่เคยเจอจะ เป็นพวกอุบัติเหตุทางรถยนต์ ประเภทรถคว่ำไปมองสภาพรถแล้วสงสัยตายแน่ แต่ออกมานี่บางทีไม่เป็นอะไรเลย หรืออาการจะเป็นน้อยกว่าที่คิด หากเทียบกับสภาพรถที่ยับเยินมาก น่าจะตายมากกว่าเพราะรุนแรงมาก คนสมัยก่อนค่อนข้างเจอเยอะ คนทางใต้นี่เวลาเดินทางไปไหนเขาจะพูดทันทีว่าเอาหลวงปู่ทวดไปด้วย เขาจะนิยมกันตรงนี้ ความข้างต้นคือคำพูดของ ธงชัย ติระนารถวณิช เจ้าของร้านเมจิกพริ้นท์ หาดใหญ่
จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ลองมาดูเหตุการณ์จริงที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ รายแรก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2545 ลงภาพพร้อมบรรยายว่า ดวงแข็ง รถยนต์สปอร์ตโตโยต้าเซลิก้าของนายทินกร ว่องวชิราพาณิชย์ รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี หมุนคว้างพุ่งชนราวเหล็กกั้นถนนพังยับเยินทั้งคัน แต่นายทินกรไม่ได้รับบาดเจ็บ เชื่อเหรียญหลวงปู่ทวดคุ้มครอง ในเนื้อข่าวระบุว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 พ.ย. 2545 ร.ต.ท. อดิศร เลิศอมรศักดิ์ ร้อยเวร สภ.อ. ท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุบนถนนแสงชูโตสายเก่า หน้าวัดโพธิ์ศรีสุขาราม (วัดโพธิ์เลี้ยว) หมู่ 3 ต. วังศาลา จึงไปตรวจสอบ พบรถยนต์สปอร์ตบุบบี้ทั้งคัน ในที่เกิดเหตุพบนายทินกร ว่องวชิราพาณิชย์ อายุ 35 ปี รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ยืนรออยู่ให้การว่า ขับรถจากตัวเมืองกาญจนบุรีมุ่งหน้าไปทำธุระในเขต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถแล่นด้วยความเร็วประมาณ 130-140 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เป็นทางโค้งมีรถปิกอัพคันหนึ่งขวางหน้าจึงแตะเบรก ทำให้รถเสียหลักหมุนคว้างหลายตลบชนแผงเหล็กกั้นข้างถนนจนรถพัง
เสียหายทั้งคัน แต่ตัวเองกลับไม่มีบาดแผลแม้รอยขีดข่วน
 

คงเป็นเพราะบุญบารมีของเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นเตารีดพิมพ์เล็กทรงนิยมที่ห้อยคออยู่ช่วยปกปักรักษา นายทินกรกล่าวพร้อมโชว์พระเครื่องที่ห้อยคออยู่ให้ผู้สื่อข่าวดู อีกรายหนึ่ง ก้อง กังฟู เขียนไว้ในคอลัมภ์ เหนือฟ้าใต้บาดาล ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 3 พฤศจิกายน 2545 ในหัวเรื่อง พลังน้ำมนต์ ปู่ทวด 14 ปาฎิหาริย์ เวลาเดียววัดช้างไห้ ว่า จากความเชื่อ บ่อยครั้งที่มีเสียงบอกเล่ามาเข้าหู เหนือฟ้าใต้บาดาล จากพวกตำรวจ นักข่าวอาชญากรรม หรือเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่าง ๆ ที่ปฎิบัติงานอย่างโชกโชนว่า ตั้งแต่ออกทำงานพบศพจำนวนไม่น้อย ไม่มีศพไหนที่เสียชีวิตทั้งรูปแบบฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ โดยที่ร่างนั้นห้อยคอด้วยพระหลวงปู่ทวดเลย แต่ผู้ที่ห้อยคอหลวงปู่ทวดไปเล่นการพนัน มักจะเสียหมดตูด ด้วยแรงแห่งศรัทธา ต่อหลวงปู่ทวดผู้ที่ต้องการให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตจึงได้แสวงหาไว้บูชาหรือติดไว้กับตัว เพื่อที่จะให้พลังบารมีหลวงปู่ทวด นั้นปกป้องคุ้มภัย อย่างไรก็แล้วแต่ หลวงปู่ทวดก็มีเหตุอุบัติ เช่นกัน เมื่อเวลา 03.00 น. กว่า ๆ ของวันพระที่ 29 ตุลาคม ได้เกิดระเบิด (ถูกคนร้ายวาง) ที่วัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเชื่อกันว่าวัดนี้เป็นวัดที่หลวงปู่ทวดมรณภาพ ผลเสียหายเพียงเล็กน้อย แค่ขั้นบันไดที่ 13-14 ทางขึ้นวิหาร อาจารย์ทิม พระครูวิสัยโสภณ อดีตเจ้าอาวาส แค่เป็นรอยหินขัดถลอก

และในเวลาเดียวกันนั้น พระมหาวัน อุตตโม เจ้าอาวาสวัดวิเศษการ ถนนพรานนก กทม. เดินทางกลับจากที่ไปเอาน้ำมนต์ หลวงปู่ทวดจากภาคใต้ มาถึงอำเภอละแม จังหวัดชุมพร ประสบอุบัติเหตุ รถตกถนนชนต้นไม้ และหลักกั้นขอบถนนพังเป็นทางยาว รถยนต์คันนั้นพังบุบบูบี้ ถ้าใครเห็นสภาพแล้วเชื่อว่าทั้งผู้โดยสารและคนขับต้องหยอดน้ำข้าวต้มแน่ แต่ว่าพระมหาวัน อุตตโม นั้น ปลอดภัยเดินปร๋อ สบาย สบาย และที่น่าทึ่งมากคือน้ำมนต์หลวงปู่ทวดที่นำมาด้วยนั้น ไม่หกสักหยดเดียว

วัดวิเศษการ เดิมชื่อ วัดหมื่นรักษ์ อันเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2380 สมัยกรุงธนบุรี เป็นวัดที่นักเรียนนักศึกษาทางจังหวัดภาคใต้ มาพำนักเรียนหนังสือ และได้ดิบได้ดีกันไปหลายคน (ใครที่เคยพักที่นี่รู้กันดี) โดยเฉพาะนักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง ความยืนยาวของอายุวัด เลยทำให้พระอุโบสถชราภาพไปด้วย ทางวัดก็เลยบูรณะ จนกระทั่งแล้วเสร็จเป็นพระอุโบสถ ร่วมสมัยกึ่งมหาอุด และทางวัดกำหนดวันเฉลิมฉลองในวันที่ 9-10 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ด้วยที่ว่า พระมหาวัน อุตตโม พื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดพัทลุง และศรัทธาต่อหลวงปู่ทวด ก็เลยเดินทางลงภาคใต้เพื่อรวบรวมน้ำมนต์ของวัดต่าง ๆ ที่มีความสำคัญและผูกพันกับหลวงปู่ทวด เพื่อที่จะได้มาจ่ายแจกกับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในการฉลองพระอุโบสถ พระนพฤทธิ ฐิตธมโม พระเลขาฯ วัดวิเศษการ ได้บอกถึงน้ำมนต์ 14 วัดที่มีความผูกพันกับหลวงปู่ทวดที่ได้น้ำมนต์มา ที่จังหวัดปัตตานี คือ วัดช้างไห้ วัดนาประดู่ วัดทรายขาว วัดศรีมหาโพธิ์ และวัดตุยง จังหวัดยะลา มีวัดลำพญา จังหวัดสงขลา มีวัดพะโคะ วัดดีหลวง วัดสียัง สำนักสงฆ์ต้นเลียบ (เชื่อว่าที่แห่งนี้เป็นที่ฝังรกหลวงปู่ทวด) และพัทลุง มีวัดเขาอ้อ วัดภูเขาทอง วัดดอนศาลา และวัดบ้านสวน เมื่อได้น้ำมนต์มาครบ 14 วัด ก็เอามารวบรวมให้ พระมหาวัน เจ้าอาวาส นำเดินทางกลับวัดวิเศษการ ในช่วงหัวค่ำวันที่ 18 ตุลาคม โดยที่ให้รถยนต์ของเจ้าอาวาสนำหน้า ส่วนพระนพฤทธิกับคณะ กรรมการก็นั่งรถยนต์คันอื่น ๆ วิ่งตามหลังเป็นขบวน แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่ารถยนต์คันของท่านเจ้าอาวาสจะถูกลองของ เกิดยางระเบิดพลิกคว่ำซึ่งเป็นเวลาเดียวหรือใกล้เคียงกับที่ระเบิดวัดช้างไห้ ด้วยปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้น ยิ่งสร้างแรงศรัทธาให้แก่เจ้าอาวาส กับพระทั้งวัดวิเศษการและกรรมการวัด ก็เลยเปลี่ยนแผนงานในการฉลองพระอุโบสถด้วยการ เอาน้ำมนต์ หลวงปู่ทวดมาผสมรวมกันแล้วนิมนต์สงฆ์เกจิอาจารย์ ทั้งหลายมาร่วมบริกรรมคาถา ในช่วงกลางคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน เกจิเหล่านั้นคือสงฆ์มีระดับจากกลุ่มวัดเขาอ้อ นำโดย พระเทพญาณโมลี วัดคูหาสวรรค์ หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง หลวงพ่อช่วง วัดควนปัตตบาราม หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ หลวงพ่อเอียด วัดโคกแย้ม หลวงพ่อล้อม วัดควนใส คานแพรกหา หลวงพ่อเชษฐ วัดโพธิตำนวน หลวงพ่อผัน วัดทรายขาว แล้วก็มีหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม ซึ่งจะบริกรรมคาถากันตลอดทั้งคืนเพื่อเพิ่มความขลัง แล้วในตอนรุ่งเช้า วันที่ 10 พ.ย. ก็จะแจกน้ำมนต์ หลวงปู่ทวด 14 ที่ใช้คำว่า 14 คือมาจาก 14 วัด และก็บันไดขั้นที่ 14 ของวัดช้างไห้โดนระเบิด ฟรีกับทุกท่านที่ไปร่วมงานฉลองพระอุโบสถ ณ วัดวิเศษการ
และก็มีแถมอีกนิดในช่วงที่เกจิบริกรรมคาถานั้น ก็จะเอา พระรอดหลวงปู่ทวด เข้าพิธีกรรมด้วย แล้วก็เอามาแจกในวาระเดียวกัน กับน้ำมนต์หลวงปู่ทวด 14 ใครที่ได้ของดี หลวงปู่ทวด ไปแล้ว จะพิสูจน์ขับรถซิ่งหักพวงมาลัยลงข้างทางเพื่อทดสอบก็เชิญ ส่วนจะรอด (ตาย) หรือไม่นั้น ไม่รับรอง คนประมาท พระไม่ช่วย !