เรื่องปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวด บทที่ 1

157 Views
อภินิหาร ความเชื่อ และมหาศรัทธา แห่งหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้

มีเรื่องราวมากมายในโลกนี้ที่ไม่สามารถอธิบายด้วยหลักวิชาใด ๆ บางเรื่องดำรงอยู่เหนือมิติแห่งกาลเวลา
เป็นความลี้ลับ
อัศจรรย์ที่มนุษย์ได้แต่ฉงนงงงันในสิ่งที่เห็นและเป็นไป
ความเชื่อในอภินิหารแห่งพระเครื่องหลวงปู่ทวด
วัดช้างไห้นั้น
ก็ไม่ต่างกัน มีเรื่องราวและเหตุการณ์อันเหลือเชื่อเฉกเช่นมิติพิศวงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับ
คนที่บูชาหรือห้อยพระหลวง
ปู่ทวด  ประสบการณ์เรื่องเหลือเชื่อมีมาตั้งแต่เมื่อแรกสร้าง
พระเครื่องหลวงปู่ทวดรุ่นแรก ๆสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤกธิ์
ปาฎิหาริย์และความแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงที่ผู้คนมากหน้าหลายตาประสบพบเจอนั้น
ถูกเล่าขาน
สืบต่อ ๆ กันมา หลายเรื่องมีบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มีจดหมายหลายฉบับที่จ่าหน้าถึง
คุณอนันต์
คุณานุรักษ์บางเรื่องเป็นข่าวโด่งดังในหนังสือพิมพ์ยุคนั้น อาทิเช่น

คืนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2497 เวลาประมาณ 19.00 น. นายซัว นิลกำแหง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3
ตำบลลำพะยา จ.ยะลาได้นำ
พระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดใส่กระเป๋าเสื้อแล้วลงเรือนไปวัด
เพื่อฟังพระแสดงธรรมเพราะวันนั้นเป็นวันพระ
เดือนขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง
เวลาประมาณ 22.00 น.เขาออกจากวัดเดินจะกลับบ้าน
ระหว่างทางนั้นมีผู้ร้าย 3 คน
เป็นคนที่รู้จักจำหน้าได้เพราะเดือนหงาย
ผู้ร้ายคนหนึ่งกระโดดเข้ามาใกล้เขาแล้วใช้ปืนสั้นยิงเขาในระยะเผาขน 4 นัด
3 นัดแรกไม่ถูก
นัดสุดท้ายกระสุนถูกข้างตะโพกเขาล้มลงผู้ร้ายจึงหนีไป เพราะเข้าใจว่าเขาคงตายแล้ว
เมื่อนายซัวลุกขึ้น
ตรวจดูแผล เห็นกางเกงทะลุ แต่ที่สะโพกไม่มีแผล นายซัวว่า
หากหลวงพ่อทวดไม่คุ้มครองเขาคงจะไม่รอดชีวิตเป็นแน่


อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ แต่คราวนี้เป็นฝรั่งโดยหนังสือพิมพ์ บ้านเมือง
ฉบับวันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2545
พาดหัวข่าวตัวไม้ว่า ฝรั่งทึ่ง ปาฎิหาริย์ ลอยคอรอดตาย
โดยเนื้อหาระบุว่าอดีตทหารช่างชาวอังกฤษตามหาแฟนสาว

ชาวไทยพบ เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง คลุ้มคลั่งโดดลงทะเลว่ายน้ำเล่นดับกลุ้มกลางดึก
เคราะห์ร้ายคลื่นซัดออกห่าง
ชายฝั่งก่อนหมดแรงคว้า "หลวงพ่อทวด" ใส่ปาก
อมอธิษฐานขอให้คนช่วย ต้องลอยคอระทึกนานกว่า 12 ชั่วโมง

หลวงพ่อทวดดลบันดาลชาวประมงมาช่วยชีวิตฉิวเฉียด ชาวระยองตื่นทั่วเมืองแห่ขอเช่าทุ่มราคานับแสน
รายละเอียดของเนื้อข่าวมีว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2545
สุชิน พูลหิรัญ กำนันตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง 
จังหวัดระยอง
เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายชัชวาลย์ พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี
ชาวประมงเรือเล็กกว่า เมื่อเช้าวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้พบชาวต่างชาติ
ลอยคออยู่ในทะเลในลักษณะอ่อนแรง จึงได้แล่นเรือเข้าไปใกล้และ

ช่วยเหลือนำขึ้นมาบนเรือ โดยชาวต่างชาติมีอาการหมดแรง ตัวซีดขาวและที่คอห้อย
พระหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
อยู่ 1 องค์ จึงได้ช่วยเหลือนำเข้าฝั่งจากการสอบถามทราบชื่อว่า
นายพอร์บลิว อายุ 35 ปีเป็นชาวอังกฤษ เคยเป็นทหารช่างมาก่อน
ได้เดินทางมาตามหาแฟน
สาวที่อำเภอบ้านฉางและพักอยู่ที่โรงแรมภูรีมาศบีช ริมชายหาดพะยูน
ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
โดยก่อนเกิดเหตุได้พบกับแฟนสาวและเกิดมีปากเสียงกัน
ด้วยความกลุ้มใจจึงหนีมารับประมาณอาหารที่ร้านร่มสน
ตั้งแต่เย็นวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
จนกระทั่งเวลามืดค่ำจึงได้ลงเล่นน้ำทะเลเพียงลำพังเพื่อดับความกลุ้มที่ทะเลาะกับ
แฟนสาว
เผอิญเกิดพายุคลื่นแรงพัดออกจากฝั่งไปทุกที ประกอบกับเป็นเวลามืดค่ำไม่สามาถว่ายน้ำเข้าฝั่งได้

จึงต้องลอยคออยู่ในทะเลทั้งคืน รวมเวลาอยู่กลางทะเลประมาณ 12 ชมขณะที่กำลังจะหมดแรง
จึงได้อมพระหลวงพ่อทวดไว้ในปาก ภาวนาให้มีคนมาช่วยจนกระทั่งถึงเช้าก็มีชาวประมง

เรือเล็กมาช่วยเหลือก่อนที่จะจมน้ำหลังจากข่าวได้กระจายออกไป ปรากฎว่ามีชาวบ้าน
และเซียนพระที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาขอดู และฮือฮากันมากว่า
เป็นเพราะอิทธิฤทธิ์
ของหลวงพ่อทวดที่ช่วยชีวิตชาวต่างชาติไว้ จึงขอเช่าพระหลวงพ่อทวดจากนายพอร์บลิวกัน
อย่าง
เนืองแน่นบ้างก็เสนอราคาขอเช่าทั้งหลักหมื่นหลักแสนก็มี
แต่นายพอร์บลิวไม่ยอมให้เช่า โดยจะขออนุรักษ์พระเครื่อง
องค์นี้ไว้จนถึงที่สุด
และจะประกาศให้เพื่อน ๆ ชาวอังกฤษได้ทราบถึงอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์
หลวงพ่อทวดที่ช่วยให้รอด
พ้นจากการจมน้ำทะเลตายในครั้งนี้ด้วย
ทั้งหลายทั้งปวงที่ยกตัวอย่างเพียงเศษเสี้ยวมาเล่าสู่กันฟังนี้ เป็นเพียงตัวอย่างที่เกิดขึ้น
กับผู้ห้อยคอด้วยพระเครื่องหลวงปู่
ทวดแต่จะเท็จจริงประการใด ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน
เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือกาลพิสูจน์และยากนักที่จะ
อธิบาย